เรื่องเล่าจากทางบ้านในตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นเวลาเกือบปีแล้ว ตอนล่าสุดเมื่อคราวนั้น คือตอนที่มีชื่อว่า เสน่ห์หา คาวโลกีย์ เพื่อนๆ สามารถตามเข้าไปอ่านกันได้นะครับ สนุกมาก
ในเรื่องนี้ ผมได้มีโอกาสได้คุยกับคุณที เลขรหัสชีวิต 653 ความหลอนนี้ที่ไม่เคยลืม เรียกได้ว่า หลายๆ ช่วงเวลา หลายๆเหตุการณ์ มีความคล้ายคลึงกันมาก เรียกมาเหมือนลอกกันมาเลย
ผิดแต่ในเรื่องแรกจะเป็นตัวชายหนุ่ม ที่ถูกกระทำ แต่ในตอนนี้ กลับกลายเป็นหญิงสาว ถูกกระทำแทน และอีกเช่นเคยนะครับ ในครั้งนี้ ผมจะขออนุญาต เล่าเรื่องนี้เป็นตัวผมแทนครับ
จะได้ไม่สะดุดในการอ่านของทุกๆท่านครับ งั้นผมขอเริ่มเล่าเลยนะครับ
หลังจากที่ห่างหายกันไปนานนั้น ผมได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในเรื่องราวต่างๆมากมาย จนมาในช่วงนี้ เหมือนบางสิ่งบางอย่าง นำพาให้ผมกับรู้จัก ศาสตร์แห่งตัวเลข
การเรียงร้อยเรื่องราวของชีวิตของผู้มาขอคำทำนาย การทำนายวันเกิด เลขที่อยู่ หรือ แม้กระทั่ว รหัสชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นในช่วงนี้ เป็นอย่างไรบ้าง
และมีคนรอบตัวถามว่าได้ไปเรียน หรือ ศึกษาหาความรู้ที่ใดบ้าง เผื่อไปเรียนบ้าง ผมจึงตอบกับคนที่ถามเสมอๆว่า ผมไม่เคยเรียนรู้เหล่านี้เลย เพียงแค่ลองทำนาย ดูๆ
และผูกโยงเลขที่ได้พูดขึ้นมาเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง ไม่ได้ไปศึกษาหาความรู้ หรือ จากอาจารย์คนใด อาจจะเป็นสิ่งที่เขาอยากให้ผมได้รู้เองเองก็เป็นไปได้
เพื่อให้ใช้สิ่งที่ได้รู้ในเรื่องเหล่านี้ บอกเล่าแก่ผู้ที่ผ่านเข้ามาพบเจอกัน จากกรรมที่เคยมีกันมา เหรือ อาจเป็นเรื่องบังเอิญก็ไม่แน่ใจครับ
หลังจากที่ผมทำนายอยู่ได้ช่วงเวลาหนึ่ง ไม่นานนัก ก็มีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทักหาใน messenger ว่าเธอๆ เธอว่างไหม ช่วยทำนายให้ชั้นบ้างสิ
เมื่อผมเห็นข้อความทักเข้ามา ผมจึงทักว่า เออได้สิ ชั้นว่างอยู่พอดี มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า? ทางด้านผู้หญิงคนนี้ จึงบอกว่า เธอช่วยทำนายรหัสชีวิต 653 ได้ไหม? ชั้นอยากรู้ว่าเป็นยังไงบ้าง?
ผมจึงตอบว่า อ่อได้สิ หลังจากได้เลขรหัส 653 มาแล้ว ผมก็เริ่มทำนายดวงไปเรื่อยๆ เช่นช่วงนี้เธอมีเสน่ห์มากเลยน๊า ใครๆ ก็อยากเข้ามารู้จักเธอ แต่เห็นแบบนี้ก็เลือกคนเข้ามาหานะ ,
ช่วงนี้สวดมนต์ ไหว้พระบ่อยนะเนี่ยะ แถมช่วงนี้ใจร้อน ดื้อ เอาแต่ใจ บลาๆๆ ก็ทายกันไปตามแบบฉบับของผมนะครับ แฮะๆ อ่อลืมบอกไปครับ เพื่อนคนนี้ชื่อ “ไอรีน” นะครับ ต้องอธิบายก่อน
จะได้เห็นภาพตามร่วมกันครับ ไอรีน อายุราวๆน่าจะสัก 30 นิดๆ สูง ยาว ขาวหุ่นดีมากครับ เท่าที่ดูมา เธอเป็นพนักงาน ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงเลยครับ แต่ไม่ขอบอกนะครับเป็นความลับ
เรียกได้ว่า หากตาม facebook ของเธอจะเห็นหนุ่มๆกดติดตามเป็นจำนวนมาก หนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ ต่างมาขายขนมจีบเธอก็ว่าได้ เรียกว่า ชมไอรีนไม่ขาดปาก
ทั้งน่ารัก ทั้งสวย มีเสน่ห์ แถมยิ่งเธอในตอนนี้โสดอยู่ด้วย ยิ่งมีคนมาขายขนมจีบ เยอะอยู่แล้วเป็นธรรมดาครับ หลังจากพอรู้จักไอรีน หอมปากหอมคอ กันแล้วงั้นมาต่อกันครับ
หลังจากผมได้ทำนายดวงของไอรีนไปจนจบสิ้นกระบวนความ ผมถามว่าสิ่งที่ผมได้ทำนายนั้นเป็นอย่างไรบ้าง? ไอรีนบอกว่า กว่า 80% ถูกต้องเลยกับชีวิตของเธอในช่วงเวลานี้
เธอจึงตอบพร้อมถามขึ้นมาต่อว่า สะดวกโทรคุยกันไหม พอดีชั้นมีเรื่องอยากจะเล่าให้เธอฟัง หลังจากที่เราไม่ได้คุยกันมานานมากแล้ว ผมบอก อ่อได้สิ มันยังเช้าอยู่ยังพอมีเวลาคุยกับเธอนะ
ผมรอได้ไม่นาน มีสายเข้ามา นั่นคือ สายของไอรีนนั่นเอง ผมและไอรีน ต่างทักทายกัน พูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกันไปมา จนผมตัดบทว่า ว่าแต่ ไอรีน มีเรื่องอะไรรึเปล่าถึงโทรมาหา
ทุกทีไม่เห็นโทรมาหาเลย ไอรีนบอกว่า ชั้นมีเรื่องมาเม้ากับเธอ เธอลองฟังดูนะ เมื่อปีก่อน ตอนที่เราเหงาๆ โสดๆ หลังจากเลิกกับแฟนได้ไม่นาน มีอยู่วันหนึ่ง มีผู้ชายคนหนึ่ง
เขาทักเข้ามาหาฉันแหละเธอ เขาบอกว่าอยากทำความรู้จักกับไอรีน เห็นว่า น่าจะโสดอยู่ เลยลองทักเข้ามาคุยกับไอรีนดู น่าจะไม่เป็นอะไร วันนี้เขาเลยตัดสินใจทักมาหา
ไอรีนก็คุยๆทักไปตามประสาทั่วๆไป ไม่ได้เสียหายอะไร มีเพื่อนใหม่อีกสักคนก็ โอเค หลังจากทักทายคุยกันหอมปากหอมคอ ก็ไม่ได้มีอะไร วันนั้นก็จบลงไป
ระหว่างนั้นไอรีนก็ไปกดดูที่ facebook ของผู้ชายคนนี้ น่าจะอายุราวๆ 37-38 ดูเป็นคนทำงาน นักธุรกิจ เจ้าของกิจการอะแหละ หน้าตาไม่ได้หล่อ เสปคของไอรีนเท่าไหร่
แต่ท่าทางการแต่งตัวดูดี เรียกว่า ดูมีเสน่ห์ คุยได้ ไม่ได้น่ากลัวอะไร ถ้าดูจาก Profile ที่เห็นใน facebook อะนะ ไอรีนบอกไว้ประมาณนี้ อ่อลืมไปบอก ผู้ชายคนนี้ชื่อเล่นว่า
“ต่อ” นะ หลังจากนั้นอีก 1-2 วัน ต่อก็ทักมาหา เราคุยกัน นั่นนี่เป็นเวลาเกือบเดือน จนมีวันหนึ่งพี่ต่อทักมาคุยพร้อมถามว่า พรุ่งนี้ไอรีนว่างไหม อยากชวนไปทานข้าว ไอรีนดูวันแล้ว
ก็เห็นว่าไม่เสียหายอะไร คุยกันมาก็เกือบเดือนกว่าแล้ว แล้วก็ไม่น่าเสียหายอะไรที่นัดเจอกันกับใครสักคน เพราะตอนนี้โสดอยู่
ก็เลย ตอบตกลงกับทางต่อไปว่า ได้สิ ไปที่นี่เนอะ เวลานี้ บลาๆ ก็ว่าไป ตัดภาพมาในวันรุ่งขึ้น ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง บรรยากาศดีๆ ไอรีน มารออยู่หน้าร้านสักพักหนึ่งได้ ก็ยังไม่เห็นต่อสักที
จนเวลาผ่านไปได้ไม่นาน ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินมาหา พร้อมทักทายกับ ไอรีนว่า สวัสดีครับ ใช่ไอรีนรึเปล่าครับ ผมต่อนะ ( ไอรีน บอกกับผมแบบเม้ามอยว่า ที่ต่อมันมาช้า จริงๆมันน่าจะมาแล้ว รอดูอยู่ว่า
ชั้นหน้าตา ตรงกับปกไหม ถ้าไม่ตรงจะได้รีบหนีกลับก่อน แต่พอดีตรง มันเลยเดินเข้ามาหา ฮ่า) จากนั้นเข้าไปทานอาหาร มีจิบไวน์ร่วมกันเบาๆ แต่อยู่ดีๆ ภาพมันตัดกลับมา
ตรงที่โรงแรม… คุณคงเดาไม่ยากกันนะครับ ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมถามไอรีน มันไวไปรึเปล่า ไอรีนบอกผมว่า ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นเลยนะเธอ แต่เธอเชื่อไหม เหมือนหลายๆอย่างมันพาไป
ชั้นตามพี่ต่อไปโรงแรมแบบง่ายดาย และจบลงตรงที่ฉัน นอนกับพี่ต่อ ทั้งๆที่ฉันไม่ได้คิดที่จะทำแบบนั้นเลย แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วฉันก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น
หลังจากนั้น ฉันกับพี่ต่อก็เลยลองคุยกัน และอีกหลายๆครั้ง ก็นัดกันมาเจอ ต้องบอกก่อนว่า หลายๆครั้งที่นัดเจอกัน ฉันมักต้องแว้บออกมา หรือ ลาหยุดบ้าง เพราะพี่ต่อบอกว่า
เวลาของเขาค่อนข้างยุ่งมาก หากว่างเมื่อไหร่อยากให้มาหาเขา ซึ่งมันเป็นแบบนี้อยู่สักพักหนึ่ง ในช่วงแรกๆที่คุยๆกัน หลังจากเราได้นอนไป เธอเชื่อไหม เรามักจะผวาตื่นในช่วงเวลา
ตี 1-3 ตลอดเลยเธอ แล้วฉันต้องข่มตานอนไปเป็นแบบนี้เรื่อยๆ นานๆ เข้าไป รวมถึงฉันมักจะเห็นแต่หน้าพี่ต่อแบบ วนไป วนมาตลอดทั้งวัน ทำนั่นนี่หรือทำอะไร ก็จะเห็นแต่หน้าเขาลอยมา
หรือบางทีนะเธอแบบเขาโทรมาบอกให้มาเจอเขา แม้ฉันจะยุ่งๆหรือติดธุระอยู่ ฉันต้องโกหกเพื่อนว่า มีธุระขอตัวไปก่อน มันแบบตัวฉันสั่นมาก ใจสั่นมาก แบบกระวนกระวายใจ ต้องไปหาเขาให้ได้อะเธอ
จนมีวันหนึ่ง ฉันก็ฝันแปลกๆ อะเทอ ฉันฝันว่า ฉันกำลังยืนอยู่สักที่ แล้วอยู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังใส่สไบ น่าตา ผมเผ้า น่ากลัวมาเลย อยู่ๆ เข้ามาบีบคอเราสองมือ อย่างแรง เราตะโกนบอกไปว่า
ปล่อยๆ เราหายใจไม่ออก เราตะโกนๆ จนเรา ตกใจตื่นขึ้นมา เธอเชื่อไหม หลังจากวันที่เราฝันในคืนนั้น อยู่ๆ เราก็ไอๆๆ แค่กๆ ตลอดเวลา ผมจึงพูดสวนไปแบบขำๆ ว่า เธอไปตรวจยัง เป็นโควิดไหม
ต้องบอกว่า ช่วงเวลาที่เล่านั้น ยังคงมีโควิดอยู่นะครับ ไอรีนบอกว่า จะบ้าหรอ ชั้นตรวจหมดแล้ว ชั้นไม่ได้เป็นนะ แต่ ช่วงเวลานั้นฉันไอแบบไม่รู้อะไรมันติดคอ ติดแบบ อยากไอตลอดเวลา
จนเพื่อนๆ ที่ทำงาน รวมถึงเพื่อนสนิทที่อยู่รอบตัวของฉันสังเกต เห็นว่าฉันดูโทรมลงไปอย่างเห็นได้ชัด ห่างทั้งเพื่อนที่ทำงาน ห่างทั้งเพื่อนที่สนิทกันไป
บางทีออกมากินข้าว หรือ ทำอะไรคนเดียว ผิดแผกไปจากเดิมๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
รวมไปถึง เชน เอ๊ะ? ใครคือเชนหรอ? ไอรีนบอกว่าเชนเป็นเพื่อนสนิทของไอรีนเอง เชนเป็นคนที่มีซิกเซ้น เป็นพวกสวดมนต์ มีสำนัก เป็นศิษย์มีครูบาอาจารย์ก็ว่าได้
อยู่มาวันหนึ่งเชนเขาทักมาหาบอกว่า วันนี้ว่างไหมออกมาเจอกันหน่อย ไอรีนบอกว่า ว่างสิคิดถึงเชนอยู่พอดี เลยรีบบึ่งรถไปนั่งเม้ามอย ที่ร้านประจำของคนทั้งคู่
หลังจากเม้าๆ เรื่องพี่ต่อ รวมถึง พี่โน๊ต อ่อผมลืมเล่าไปครับ ระหว่างที่มีพี่ต่อเข้ามาคุยด้วย ก็มีหนุ่มใหญ่อีกคนหนึ่ง ที่เข้ามาทำความรู้จักกับไอรีน ชื่อว่าพี่โน๊ต
( พี่โน๊ตเป็นหนุ่มใหญ่ อายุราวๆ 40 กว่าๆ หล่อหน้าตาดี แต่เสียอย่างเดียวที่แอบมีครอบครัวแล้วทำให้ไอรีน มองพี่โน๊ตแบบพี่ที่น่าเคารพ พูดคุยได้ แต่ไม่ได้คิดอะไรด้วย
แค่นับถือ แค่รู้สึกว่าพูดคุย ปรึกษาเรื่องงานต่างๆได้ครับ อันนี้ความคิดไอรีนนะครับ ที่ได้เล่ามาให้ฟัง) หลังจากนั้น อยู่ๆ เชนก็พูดขึ้นมาว่า
ไอรีนเธอรู้ตัวไหม ช่วงนี้เธอแปลกๆ ไปนะ ดูโทรมขึ้น ไอรีนบอกใช่ ชั้นรู้สึกเหมือนกัน ช่วงนี้ไอไม่หยุด เหมือนมีอะไรอยู่ที่คอตลอดเวลา อยากไอแต่ก็ไม่มีอะไรออกมา
เชนจึงพูดขึ้นมาว่า ถ้าฉันบอกหรือพูดอะไรออกไป ไอรีนจะเชื่อเชนไหม ไอรีนหันมาแล้วบอกว่า เชนลองพูดออกมาละกัน ไหนบอกมาสิ มีอะไร?
เธอกำลังโดนพี่ต่อเขาทำของใส่ เป็นมนต์คาถาแบบเก่าสมัยก่อนอยู่นะ เท่าที่ฉันเห็นรวมถึงที่เธอเจ็บคออยู่ก็เกิดจากสิ่งที่พี่ต่อเขาทำกับเธอนั่นแหละ
แล้วก็เริ่มบอกสิ่งที่เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคตข้างหน้า รวมถึงบอกให้ช่วงนี้ไอรีน สวดมนต์ ไหว้พระ ปฎิบัติทำนะ ทำบุญให้มากๆช่วงนี้ เรื่องนี้เชนช่วยไอรีนได้แค่นี้จริงๆ
เพราะครูบาอาจารย์ท่านบอกเชนว่า เรื่องนี้เชนช่วยไม่ได้นะ เป็นวิบากและกรรมเก่าของไอรีนเองที่ต้องผ่านไปให้ได้ อ่อแล้วก็ทักว่า ให้ลองไปคุยกับพี่โน๊ตบอกเขาว่า
ไอรีนอยากได้ของขลัง นี้ๆๆ ลองถามดูนะ พี่เขามีของขลังชิ้นนี้อยู่ ลองขอดู เดี๋ยวพี่เขาก็เอามาให้เอง ไอรีนก็ตอบรับว่าได้ๆ แต่ในใจก็แอบ งงๆ ว่าจะมีของขลังนี้จริงไหม?
ถ้าได้มาแล้วก็ให้ห้อยไว้ติดตัวนะ จะช่วยบรรเทาสิ่งที่เกิดขึ้นกับไอรีนได้ อาจจะด้วยความใจร้อนในช่วงนี้ของไอรีน หลังจากแยกกับทางเชนแล้ว
ไม่นานนักพี่ต่อก็โทรมาหาบอกว่า อยู่ไหนคิดถึง อยากเจอกัน ไอรีนบอกว่าโอเค เดี๋ยวไปหาที่ร้านข้าวนะ พอมาถึงเราก็กินข้าว พร้อมกับจบลงด้วยไปโรงแรมอีกเช่นเคย
จนเราพูดกันหลายๆ เรื่องและจบลงที่เราสองคนทะเลาะกัน ที่จอดรถแบบรุนแรงมาก ซึ่งมันตรงกับที่เชนบอกฉันไว้เลยว่า ไอรีนจะทะลาะกับพี่ต่อตรงที่จอดรถแห่งหนึ่ง
และวันนั้นพี่ต่อใส่เสื้อสีแดงเป๊ะๆ เลยเธอ ฉันแบบอึ้งมาก หลังจากทะเลาะกันจบลง พี่เขาบอกให้ขึ้นรถมา เขาจะขับรถไปส่งฉันที่บ้าน พอมาถึงบ้านฉันก็รีบๆเข้าไปบ้าน
แต่แปลกมากๆ ที่หมาที่ฉันเลี้ยงไว้ยังเห่าไม่หยุดเลย
ตกกลางคืนเขา video call มาหาไอรีน คุยกันได้สักพักเขาให้ไอรีนทำท่าแปลกๆ คือ อ้าปากกว้างๆ ไอรีนก็งงๆ แต่ก็ทำตามที่พี่ต่อเขาขอให้ทำอะเนอะ
ไม่ได้คิดอะไร เธอเชื่อไหมหลังคืนนั้น อาการไอ รวมถึงหลายๆ อย่างก็ดีขึ้น จากที่ห่างจากกลุ่มเพื่อนที่ทำงาน ฉันก็เริ่มกลับไปหา ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน
( ไอรีนเล่าเสริมว่า ที่เขาทำน่าจะเป็นการทำพิธีอะไรบางอย่าง หรือ อาจจะสงสารก็เป็นได้ เพราะช่วงที่เจอกับพี่ต่อบ่อยๆ ไอรีนไอมาก โทรมมากกว่าแต่ก่อน
เรียกว่าแทบจะเป็นคนละคนเลย ผอมลง กินข้าวน้อยลง ไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่นัก) หลังจากรู้สึกดีขึ้น ไอรีนจำได้ว่า เชนแนะนำให้ไปขอของขลังจากพี่โน๊ต
วันนั้น ไอรีนโทรไปหาพี่โน๊ตจริงๆ พร้อมถามว่า พี่โน๊ตมีของขลังชิ้นนี้ไหม พี่โน๊ตบอกเอ้ย รู้ได้ไงว่าพี่มีอยู่จริงๆ ไอรีนไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่ไอรีนบอกว่า ถ้าไอรีนจะขอยืมได้ไหม พี่โน๊ตบอกยืมอะยืมได้
ให้ยืมนะ แต่ไม่ได้ให้เลย แหม่… พี่โน๊ตต หลังจากนั้นไม่นาน พี่โน๊ตก็นำของขลังชิ้นนี้มาให้ หลังจากใส่ได้ไม่นาน อาการของไอรีน ที่ว่า นอนตื่นในช่วงตี 1-3 ก็เรียกว่าไม่มีเลย
ฉันยอมรับว่า หลังจากได้ของขลังมานั้น ฉันค่อยๆ ห่างกับพี่ต่อ แต่เราก็ยังคุยกันบ้างแต่ ไม่ได้เหมือนก่อน ช่วงนั้นเห็นอะไร ทำอะไร ก็มักจะมีแต่หน้าพี่เขา
แต่ตอนนี้เรียกว่าแทบไม่มี รึ คิดถึงแบบคลั่งอะเธอ ไม่มีเลย จนมีวันหนึ่ง พี่ต่อโทรมาหาบอกว่ามาเจอหน่อยได้ไหม ไอรีนก็อืมๆ ไปหาก็ได้แหละ
หลังจากเราทานข้าวเสร็จ อยู่ๆพี่ต่อก็พูดขึ้นมาว่า ไอรีน เราเลิกกันเถอะนะ เรากลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมดีกว่า รวมไปถึงอีกไม่กี่วัน
พี่ต้องไปทำงานต่างประเทศเป็นเวลาเดือนนึง เราคงไม่ได้เจอกัน พี่ว่าเราเลิกกันแหละดีแล้ว แต่ก็ไม่ได้หายไปไหน เรายังคงเป็นเพื่อน เป็นพี่กันได้
ประโยคเหล่านี้ทำให้ไอรีน ช๊อคไปเลย แต่จริงๆ ก็เข้าใจเหตุผลของเขาแหละ เพราะที่ทะเลาะกัน เพราะว่าจริงๆแล้ว พี่ต่อเขามีครอบครัวอยู่แล้วเหมือนกัน
ในวันที่ทะเลาะกันวันนั้น ทำให้ฉันรู้ว่า ฉันตกเป็นเมียน้อยแบบไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ได้คิดจะเป็นเมียน้อยของใครนะเธอ แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้จริงๆว่าเขามีครอบครัวอยู่แล้ว
แต่ในใจลึกๆ ฉันอยากออกมาจากตรงนี้ แต่เธอเชื่อไหม ไม่รู้ทำไม มันถึงทำให้ออกไม่จากตรงนี้ไม่ได้ ยังยอมที่จะอยู่กับเขา แต่วันนี้ เขากลับมาบอก บอกว่าเลิกกัน
ฉันได้แต่ต้องยอมรับมันเอาไว้ ฉันบอกเขาว่าได้ ก็คงตามที่พี่ต่อเลือกก็แล้วกัน หลังจากที่เขาเดินทางไปต่างประเทศได้ไม่นาน เขาก็ทักมาหาฉัน
ฉันก็ไม่ได้ตอบหรือทักทายกลับไป เพราะฉันรู้ว่าจริงๆแล้วที่เขาไปต่างประเทศนั้น เขาไปกับภรรยาและลูกๆ ทั้ง 2 คนของเขา เขาคงไม่รู้ว่าฉันสืบจนรู้
รวมถึงภรรยาเขาก็โพสต์รูปครอบครัว เหมือนกับเพื่อให้ฉัน หรือ ใครก็ตามที่เข้ามาในชีวิตของพี่ต่อได้รู้และทราบว่า พี่ต่อมีครอบครัวอยู่แล้ว
หลังจากที่ไอรีนได้เล่าทุกอย่างจบลงไป… ผมก็ได้บอกเล่าเรื่องราวที่มีความคล้ายคลึงกับสิ่งที่ไอรีนเจอ ไม่ว่าจะเป็น การตื่นนอน อาการตัวสั่น ใจสั่นมากหรือ
เห็นแต่หน้าคนที่ทำของใส่หรืออาการที่เมื่อไหร่เรียกก็ตามไปหาให้ได้ หากใครสนใจก็สามารถอ่านได้ที่เรื่อง จะมีอาการคล้ายๆเหมือนกันอยู่ครับ
ผมบอกกับไอรีนว่า ไม่ต้องเชื่อก็ได้นะแต่แบบนี้มันเป็นอาการของคนที่โดนทำของใส่ ตอนนี้พี่ต่อของเธออาจจะไม่ยุ่งหรือบอกว่าจะเลิกยุ่ง และห่างจากตัวเธอเอง
แต่เธอเชื่อเถอะ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ห่างหายไปไหน มันยังคงวนเวียนและตามเฝ้าดูเธออยู่ แต่โชคดี ที่เธอมีของดี มีครูบาอาจารย์ หรือ บุญที่สะสมที่ได้ทำเอาไว้
เฉกเช่นกับเลขรหัสชีวิต 653 ที่เธอได้เลือก นั่นคือ มีสิ่งศักสิทธิ์คอยขวางกันเหล่าสิ่งลี้ลับ พวกผีและวิญญาณต่างๆ ไม่ให้เข้ามายุ่งหรือมาใกล้เธอได้
ช่วงนี้ขอให้เธอหมั่นประพฤติดี ทำดี เอาไว้ และอยู่ในศีล 5 อย่ากลับบ้านดึกดื่นนะ เพราะยิ่งมืด ยิ่งดึก อำนาจหรือสิ่งลี้ลับพวกนี้มันจะมีฤทธิ์มาก
เธอลองอ่านเรื่องเล่าที่เราได้เล่าไว้สิชื่อว่า … อันนี้ก็คล้ายมากๆเลยนะ ไอรีนรับคำ บอกว่าจะทำตามคำแนะนำ รวมถึง ไปอ่านเรื่องที่ผมเขียนเล่าเอาไว้
สุดท้ายเธอพูดกับผมว่า เมื่อฉันเห็นครอบครัวเขามีความสุข ฉันคนนี้คงได้แต่ตัดใจ และ ปล่อยไป รวมถึงเก็บเรื่องราวต่างๆ นี้ไว้
สมกับตอนนี้ ตอนที่ชื่อว่า “เลขรหัสชีวิต 653 ความหลอนที่ไม่เคยลืม….”
สำหรับวันนี้ ขอจบแต่เพียงเท่านี้ และในคราวหน้า จะมีเรื่องเล่าเรื่องใดจากคุณที รอติดตามรับชมรับฟังได้ที่นี่ที่เดียว www.mamooma.com ครับ
