มูให้ดู

พิธีล้างเท้าแม่ พลิกดวงชะตา

พิธีล้างเท้าแม่ พลิกดวงชะตา

วันนี้เราจะมาพูดถึงเคล็ดลับที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ นั่นคือ “พิธีล้างเท้าแม่ พลิกดวงชะตา” และถูกนำมาปรับใช้โดยคนรุ่นใหม่สายพลังงาน จนเห็นผลกันมานักต่อนัก นั่นคือพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่เรียบง่ายที่สุด แต่ทรงพลังที่สุด “การล้างเท้าแม่ 3 วัน และการกอดแม่ เพื่อเสริมสิริมงคล ปลดเปลื้องเคราะห์กรรม และดึงดูดโชคลาภ”

ผมในฐานะที่ศึกษาทั้งเรื่องของพลังงาน ฮวงจุ้ย และหลักธรรม ผมขอยืนยันว่าเรื่องนี้ “เป็นเรื่องจริงและได้ผลอย่างยิ่ง” แต่ไม่ใช่ได้ผลเพราะความงมงายนะครับ แต่มันมีคำอธิบายที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่ วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันในทุกมิติ

ความหมายที่ซ่อนอยู่ในการ “ล้างเท้าแม่”

ในทางวัฒนธรรมไทย เราทราบกันดีว่าการล้างเท้าพ่อแม่ โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ เป็นการแสดงความกตัญญูและขอขมา แต่ในทางพลังงานและกรรมวิบากนั้น มันมีความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นครับ

เท้าของท่าน คือสิ่งที่พาเราไปสู่จุดเริ่มต้นของชีวิต เท้าของท่าน คือสิ่งที่ย่ำไปบนความเหนื่อยยากลำบากเพื่อเลี้ยงดูเราให้เติบใหญ่ การที่เราน้อมตัวลงไปล้างเท้าท่านนั้น มันคือสัญลักษณ์ของการยอมรับและสำนึกในบุญคุณอย่างสูงสุด

การล้างเท้า ไม่ใช่แค่การล้างสิ่งสกปรกภายนอก แต่มันคือการ "ชำระล้างตะกอนกรรม" ที่เราอาจเคยล่วงเกินท่านไว้ ไม่ว่าจะเป็นทางกาย ด้วยการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทางวาจา ด้วยคำพูดที่ทำร้ายจิตใจท่าน หรือทางใจ ด้วยความคิดที่ไม่ดีต่อท่าน ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ การกระทำเหล่านี้ในทางธรรมถือเป็นกรรมหนักที่ปิดกั้นความเจริญของเราครับ การขอขมาและล้างเท้าท่าน จึงเปรียบเสมือนการ "ปลดล็อก" โซ่ตรวนกรรมนั้นด้วยตนเอง

น้ำที่ใช้ล้างเท้า เมื่อผ่านการตั้งจิตอธิษฐานและผ่านเท้าของพระในบ้านแล้ว น้ำนั้นจะเปี่ยมไปด้วยพลังแห่ง "พระพร" ที่บริสุทธิ์ที่สุด คนโบราณเมื่อล้างเท้าเสร็จ จะนำน้ำนั้นมารดศีรษะของตนเอง เป็นการน้อมรับพรนั้นเข้าสู่ตัวโดยตรง เปรียบได้กับการรับน้ำมนต์จากพระเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณธรรมสูงสุดเลยทีเดียวครับ

เคล็ดลับสายพลังงาน: ทำไมต้อง “3 วันติด”

การทำอะไรซ้ำๆ อย่างตั้งใจ คือการสร้าง “พลังงาน” และ “แรงอธิษฐาน” ที่เข้มข้น การล้างเท้าแม่ติดต่อกัน 3 วัน จึงเป็นเคล็ดลับที่สายพลังงานยุคใหม่นำมาปรับใช้ เพื่อทวีความเข้มข้นของพลังบุญให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน

วันที่หนึ่ง: วันแห่งการปลดปล่อยและขอขมา
วันนี้คือวันที่เราจะเคลียร์พลังงานเก่าๆ ที่ขุ่นมัวออกไปให้หมดสิ้น จิตของเราจะมุ่งเน้นไปที่การ "ขอขมา" อย่างแท้จริง นึกถึงทุกการกระทำ คำพูด หรือความคิดที่เราเคยล่วงเกินท่าน แล้วกล่าวขอขมาออกมาจากหัวใจ การล้างเท้าในวันแรกจึงเปรียบเหมือนการเปิดทางน้ำที่ถูกปิดกั้น ให้พลังงานด้านลบและเคราะห์กรรมต่างๆ ได้ไหลออกไปจากชีวิตของเรา

วันที่สอง: วันแห่งการเติมเต็มและสำนึกคุณ
เมื่อพลังงานลบถูกชำระล้างไปแล้ว วันที่สองคือการ "เติม" พลังงานดีเข้าไปแทนที่ จิตของเราจะมุ่งเน้นไปที่การ "ขอบคุณ" และ "สำนึกในพระคุณ" นึกถึงสิ่งที่แม่ทำให้เรามาทั้งชีวิต ตั้งแต่ป้อนข้าวป้อนน้ำ สอนเราเดิน ส่งเราเรียน ทำงานหนักเพื่อให้เราสบาย การล้างเท้าในวันนี้จึงเป็นการซึมซับเอาพลังแห่งความกตัญญู ความเมตตา และความสงบสุขเข้ามาในจิตใจ ทำให้ตัวเรากลายเป็นภาชนะที่พร้อมรับสิ่งดีๆ

วันที่สาม: วันแห่งการตั้งสัตยาธิษฐานและเปิดประตูโชคลาภ
วันนี้คือวันไคลแม็กซ์ครับ คือวันที่เราจะ "ประกาศเจตจำนง" ต่อจักรวาล ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และต่อบุญบารมีของแม่ เมื่อเราได้ชำระล้างของเก่าและเติมของใหม่แล้ว วันนี้เราจะตั้งจิตอธิษฐานถึงสิ่งที่เราปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในหน้าที่การงาน โชคลาภเงินทอง หรือความสุขในชีวิต การล้างเท้าในวันสุดท้ายนี้ เปรียบเสมือนการประทับตราอนุมัติคำอธิษฐานของเรา และเป็นการ "เปิดประตู" ต้อนรับโอกาสและความสำเร็จใหม่ๆ ให้หลั่งไหลเข้ามาอย่างเต็มที่

ท่านใดที่ฟังมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกซาบซึ้งและตั้งใจจะกลับไปทำ ลองพิมพ์คำว่า “สาธุ” เข้ามาในช่องแสดงความคิดเห็นนะครับ เพื่อเป็นการอนุโมทนาบุญและส่งพลังงานดีๆ นี้ร่วมกัน

เพิ่มพลังทวีคูณด้วย “อ้อมกอดแห่งจักรวาล”

นอกจากการล้างเท้าแล้ว “การกอดแม่” คืออีกหนึ่งสุดยอดเคล็ดลับที่หลายคนมองข้าม ในทางวิทยาศาสตร์ การกอดจะหลั่งสารออกซิโทซิน (Oxytocin) หรือ “ฮอร์โมนแห่งความผูกพัน” ช่วยลดความเครียด สร้างความสุข และเยียวยาจิตใจ

แต่ในทางพลังงานแล้ว การกอดแม่นั้นทรงพลังยิ่งกว่านั้นมากครับ

ร่างกายของแม่คือ “บ้านหลังแรก” ของเรา การที่เราได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของท่านอีกครั้ง มันคือการกลับไปเชื่อมต่อกับ “รากเหง้า” แห่งพลังชีวิตของเราโดยตรง ลองนึกภาพตามนะครับ เหมือนต้นไม้ที่กำลังจะเหี่ยวเฉา เมื่อได้กลับไปเชื่อมต่อกับรากแก้วที่แข็งแรง ย่อมกลับมาผลิดอกออกผลได้อีกครั้ง การกอดแม่คือการชาร์จพลังชีวิตโดยตรงจากแหล่งกำเนิดของเรา เป็นการดูดซับพลังแห่งความรักอันบริสุทธิ์ที่ไม่มีเงื่อนไข ซึ่งเป็นพลังที่ทรงอานุภาพที่สุดในจักรวาลนี้

เวลาที่คุณกอดท่าน ไม่ใช่แค่การกอดแบบผิวเผินนะครับ แต่ให้กอดแน่นๆ สูดลมหายใจลึกๆ รู้สึกถึงไออุ่นและจังหวะหัวใจของท่าน สัมผัสถึงความรักและความปรารถนาดีที่ท่านมีให้เราเสมอมา ช่วงเวลาสั้นๆ นั้น จะสร้างสนามพลังงานบวกมหาศาลรอบตัวคุณ และสนามพลังงานนี้เองที่จะดึงดูดแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต

สำหรับผู้ที่แม่ไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว

ผมเข้าใจดีว่าหลายท่านอาจไม่มีโอกาสนั้น คุณแม่บางท่านอาจล่วงลับไปแล้ว หรืออยู่ห่างไกลกันเหลือเกิน แต่อย่าเพิ่งเสียใจไปครับ พลังงานแห่งความกตัญญูสามารถส่งถึงกันได้เสมอ

เชื่อมต่อผ่านรูปภาพ: ให้นำรูปถ่ายของท่าน หรือรูปที่คุณถ่ายคู่กับท่านมาตั้งไว้ในที่ที่สงบ มองไปที่ดวงตาของท่านในรูปภาพ แล้วระลึกถึงคุณงามความดี ความรัก และความทรงจำดีๆ ที่ท่านมอบให้ กล่าวคำขอบคุณและขอขมาท่านในใจ พลังงานและความรู้สึกของเราสามารถเดินทางข้ามมิติและส่งไปถึงท่านได้อย่างแน่นอนครับ

การอุทิศบุญ: ทุกครั้งที่คุณทำความดี ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เช่น การใส่บาตร การช่วยเหลือผู้อื่น หรือการสวดมนต์ภาวนา ให้ตั้งจิตอุทิศบุญกุศลนั้นให้แก่ดวงวิญญาณของคุณแม่เสมอ นี่คือการแสดงความกตัญญูที่ยิ่งใหญ่และเป็นการส่งเสบียงบุญให้ท่านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสะท้อนกลับมาเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตคุณเช่นกัน

ขั้นตอนการปฏิบัติที่สมบูรณ์

เพื่อให้พิธีกรรมนี้สมบูรณ์และทรงพลังที่สุด ให้เตรียมสิ่งเหล่านี้ครับ

อุปกรณ์: กะละมังใบใหม่ (เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่) น้ำอุ่นผสมน้ำอบหรือกลีบดอกมะลิ (เพื่อกลิ่นหอมที่ช่วยปรับคลื่นสมองให้สงบ) ผ้าขนหนูผืนใหม่ที่สะอาด พวงมาลัยดอกมะลิสวยๆ สักพวง และอาจจะมีซองปัจจัยเล็กๆ น้อยๆ หรือของขวัญที่ท่านชอบเพื่อมอบให้ท่านหลังเสร็จพิธี

การเตรียมจิตใจ: สำคัญที่สุดคือ "ใจ" ของเราครับ ต้องทำด้วยความรู้สึกซาบซึ้งและอยากขอขมาจริงๆ ไม่ใช่ทำไปตามหน้าที่หรือหวังผลอย่างเดียว

เริ่มพิธี: เชิญท่านนั่งบนเก้าอี้ที่สบายๆ

    จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย (ถ้ามี) แล้วตั้งนะโม 3 จบ เพื่อความเป็นสิริมงคล

    คุกเข่าลงตรงหน้าท่าน กล่าวคำขอขมา อาจจะเป็นคำพูดของเราเองจากใจจริง หรือใช้บทสวดขอขมากรรมก็ได้

    ค่อยๆ บรรจงล้างเท้าท่านอย่างนุ่มนวล ขณะล้างให้ตั้งจิตระลึกถึงพระคุณท่านไปด้วย

    เมื่อเสร็จแล้ว เช็ดเท้าท่านให้แห้งด้วยผ้าผืนใหม่

    ก้มลงกราบที่เท้าท่าน 3 ครั้ง มอบพวงมาลัยและของขวัญ

    ลุกขึ้นสวมกอดท่านแน่นๆ ส่งผ่านความรักและความขอบคุณทั้งหมดที่คุณมี

    สุดท้าย หากท่านไม่ขัดข้อง ให้ตักน้ำล้างเท้านั้นเล็กน้อยมารดที่ศีรษะของเรา พร้อมกล่าวว่า "ขอรับพรจากพระอรหันต์ประจำบ้าน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตลูกสืบไป"

ท่านผู้ฟังที่เคารพครับ ที่ผมนำเรื่องนี้มาขยายความอย่างละเอียด ไม่ใช่เพื่อส่งเสริมความงมงาย แต่ต้องการชี้ให้เห็น “กลไก” ที่แท้จริงเบื้องหลังความสำเร็จ

กลไกทางจิตวิทยา: การกระทำนี้ช่วยทำลายกำแพงแห่ง "อัตตา" หรือตัวตนของเรา ช่วยปลดปล่อย "ความรู้สึกผิด" (Guilt) ที่ตกค้างในจิตใต้สำนึก ซึ่งเป็นตัวบั่นทอนพลังชีวิตและขัดขวางความสำเร็จ เมื่อจิตใจปลอดโปร่งเบาสบาย เราจะมองเห็นโอกาสและตัดสินใจได้ดีขึ้นโดยอัตโนมัติ

กลไกทางธรรม (กฎแห่งกรรม): บุญที่เกิดจากความกตัญญูต่อบุพการี เป็น "ครุกรรม" คือกรรมหนักฝ่ายดีที่ให้ผลเร็วและแรงที่สุด เปรียบเสมือนการเติมน้ำมันจรวดให้กับชีวิต

กลไกทางพลังงาน (ฮวงจุ้ยบุคคล): พ่อแม่คือ "รากฐาน" หรือ "ประธาน" ของชีวิตเราตามหลักฮวงจุ้ย เมื่อรากฐานมั่นคงแข็งแรง ต้นไม้แห่งชีวิตของเราก็จะเจริญงอกงามได้อย่างเต็มที่ การเชื่อมต่อกับท่านคือการปรับฮวงจุ้ยที่ทรงพลังที่สุด

ผมขอเชิญชวนทุกท่านนะครับ ลองหาเวลาเพียง 3 วัน ทำพิธีกรรมที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้ดู ทำด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความกตัญญู แล้วลองสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณ

บางที… ประตูแห่งโชคลาภบานใหญ่ที่คุณเฝ้ารอมานาน อาจจะถูกเปิดออกด้วยกุญแจดอกเล็กๆ ที่ชื่อว่า “ความกตัญญูต่อแม่” ก็เป็นได้

สำหรับวันนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับฟังจนจบนะครับ หากท่านได้ข้อคิดหรือแรงบันดาลใจดีๆ ไป อย่าลืมแบ่งปันเรื่องราวนี้ให้กับคนที่คุณรัก และกดติดตามช่องของเราไว้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดสาระความรู้ดีๆ ที่จะช่วยยกระดับชีวิตของคุณในทุกมิติ ในตอนต่อไป เราจะมาพูดคุยกันในหัวข้อ “จัดฮวงจุ้ยกระเป๋าสตางค์อย่างไร ให้ดูดทรัพย์รับเงินล้าน” พลาดไม่ได้เด็ดขาดครับ

ขอให้บุญบารมีแห่งความกตัญญูที่ทุกท่านได้ตั้งใจทำ จงส่งผลให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนาทุกประการเทอญ สวัสดีครับ

You may also like

พระแม่ลักษมี ตึกเกษรวิลเลจ กรุงเทพ
ท่องเที่ยวไทย มูให้ดู

รีวิวพามาไหว้ “พระแม่ลักษมี ” ตึกเกษร

วันนี้ ออกมาเดินเล่นแถวสยาม มาบุญครอง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง เออร้านเดิมๆ ที่เคยเดิน เคยกินก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ทำอะไรเสร็จแล้ว ได้ยินมาว่า “พระแม่ลักษมี” สามารถเข้ามาสักการะพระแม่ท่านได้แล้ว ที่ชั้น 4 ตึกเกษรวิลเลจ (หัวมุมดาดฟ้า) เพื่อไม่ให้เสียเวลาจะรอช้าอยู่ไย ผมได้ทำการเขียนวิธีการเดินทาง ประวัติความเป็นมาของพระแม่ลักษมี เวลาเปิดปิด คาถาบูชาท่าน
อานิสงส์ ของการ ปิดทองพระ ได้รับด้านใดบ้าง พร้อมความหมาย
มูให้ดู

การ “ปิดทองพระ” ได้รับอานิสงส์ด้านใด? เด่นด้านใดบ้าง?

สมัยก่อนตอนที่ยังเด็กๆ คุณพ่อและคุณแม่มักจะชอบพาผมไปวัดกับน้องอยู่บ่อยๆ ตอนมาถึงที่วัดก่อนจะเข้าไปไหว้รึทำกิจกรรมอะไรต่างๆ ก็จะมีโต๊ะสำหรับชุดกราบไหว้ ไม่ว่าจะเป็น ธูปเอย เทียนเอย ดอกไม้ เช่น ดอกบัวอะเนอะ น้ำมันเติมตะเกียง และสุดท้าย แผ่นทองคำ ตอนเด็กๆ แม่ก็จะบอกว่าให้เอาแผ่นทองไปปิดทองตรงองค์พระท่าน ด้วยความเป็นเด็กก็สงสัย แล้วจะให้ปิดตรงไหน รึตรงไหนก็ได้ แม่บอกว่าแปะแผ่นทองที่หน้า ไม่ก็ที่ท้อง