วันนี้ผมอยากจะพูดเรื่องหนึ่งที่อาจแทงใจผู้ชายหลายๆ คน แต่ถ้าใครฟังจนจบ ผมรับรองว่าความสัมพันธ์ของคุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ในเรื่อง 5 ข้อ ห้ามทำกับเมีย แล้วชีวิตคุณจะปังไม่รู้ตัว และที่สำคัญ มันจะส่งผลต่อดวงชะตาและโชคลาภของคุณด้วย
ผมอยากถามคุณง่ายๆ ว่า คุณกำลัง “อยู่กับภรรยา” หรือ “ใช้งานภรรยา” กันแน่ เพราะผู้หญิงที่อยู่ข้างคุณ เขาไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นแม่บ้านฟรีๆ ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก ไม่ใช่แม่ของคุณ และไม่ใช่ถังรองรับอารมณ์ แต่เขาคือ “คู่ชีวิต” คนที่คุณเลือกให้เดินไปด้วยกัน พลังงานในบ้านเกิดขึ้นจากความสามัคคีของคนในครอบครัว ถ้าสามีภรรยาไม่สมดุลกัน ก็จะส่งผลถึงการเงิน การงาน และสุขภาพของทุกคนในบ้าน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “ความรักที่ยั่งยืน ไม่ได้เกิดจากความหลง แต่เกิดจากความเข้าใจและการปฏิบัติธรรม” เพราะฉะนั้นวันนี้ ผมอยากชวนคุณผู้ชายทั้งหลาย มาลองฟังสิ่งที่จะช่วยเปลี่ยนชีวิตคู่ของคุณให้มั่นคง พร้อมทั้งโยงกับหลักธรรมของพระพุทธศาสนา และเคล็ดลับที่จะทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่แค่คำแนะนำ แต่เป็นสัจธรรรมที่ใครก็ปฏิบัติได้
ข้อ 1: เลิกใช้งานเธอเป็นแรงงานฟรี
หลายครอบครัวที่ผมไปดูฮวงจุ้ย ผมเห็นภาพเดียวกันซ้ำๆ คือ ภรรยาต้องทำทุกอย่าง ทำกับข้าว ซักผ้า ทำความสะอาด เลี้ยงลูก ตรวจการบ้านลูก แถมยังต้องทำงานหาเงินเหมือนกับคุณอีกด้วย แต่คุณกลับคิดว่า “ฉันก็หาเงินเข้าบ้านแล้วนี่ ถือว่าแฟร์”
ผมจำได้ว่ามีลูกค้าคนหนึ่ง เป็นผู้บริหารระดับสูง รายได้ดี แต่มาหาผมเพราะการเงินไม่ราบรื่น ธุรกิจไม่เจริญ พอผมไปดูบ้าน พบว่าพลังงานในบ้านไม่ดี เพราะภรรยาเขาเหนื่อยล้า หมดกำลังใจ จิตใจเศร้าหมอง พลังงานแบบนี้มันส่งผลถึงทั้งบ้านครับ
แต่จริงๆ แล้ว นั่นไม่ยุติธรรมเลยครับ เพราะงานบ้านและการเลี้ยงลูก มันหนักพอๆ กับการทำงานนอกบ้าน ถ้าคุณทำงาน 8 ชั่วโมง ภรรยาคุณอาจต้องทำงาน 16 ชั่วโมง ตั้งแต่ตื่นจนนอน
ตัวอย่างที่ผมเจอบ่อยๆ คือ ผู้ชายกลับบ้านมา นั่งดูทีวี เล่นมือถือ ส่วนภรรยายังต้องเก็บของเล่นเด็ก เตรียมข้าวเย็น อาบน้ำให้ลูก แล้วคอยดูแลสามีอีก บางคนบอกว่า “ฉันเหนื่อยจากการทำงาน” แต่เธอไม่ได้เหนื่อยกว่าเหรอครับ
พระพุทธเจ้าสอนเรื่อง สังคหวัตถุ 4 หนึ่งในนั้นคือ “อัตถจริยา” หมายถึงการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การช่วยกันทำงานบ้านไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่มันคือการแสดงความรักและการเสียสละ
ในทางฮวงจุ้ย เราเรียกว่า “พลังงานสมดุล” เมื่อสามีภรรยาช่วยเหลือกัน พลังงานบวกในบ้านจะเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อการเงิน การงาน และสุขภาพ
ลองคิดดูสิครับ ถ้าวันหนึ่งคุณกลับบ้านมา แล้วแทนที่จะนั่งดูทีวีอย่างเดียว คุณลุกขึ้นมาช่วยล้างจาน หรืออาบน้ำให้ลูก หรือเก็บของเล่นลูก แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่คุณกำลังบอกเธอว่า
“เธอไม่ได้อยู่คนเดียว ฉันอยู่ตรงนี้ และเราสู้ไปด้วยกัน”
ผมเคยมีลูกค้าคู่หนึ่ง สามีเริ่มช่วยงานบ้านมากขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน ธุรกิจของเขาเริ่มดีขึ้น ได้โปรเจกต์ใหญ่ๆ เพราะภรรยามีพลังใจดี อยู่ในบ้านด้วยใจที่เบิกบาน พลังงานบวกแผ่ไปทั่วบ้าน
และเชื่อไหมครับ นั่นคือบุญที่แท้จริง ไม่ต่างจากการทำบุญที่วัดเลย เมื่อคุณช่วยเหลือคนที่คุณรัก คุณกำลังสร้างกรรมดีให้กับตัวเอง
ข้อ 2: เลิกสั่ง ต้องฟัง
หลายคนเชื่อว่าผู้ชายคือผู้นำบ้าน ต้องเป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง จนบางทีชีวิตคู่กลายเป็นระบบ “นาย–บ่าว” ไปโดยไม่รู้ตัว ผมเจอแบบนี้บ่อยมากใน 20 ปีที่ทำงานนี้
เคยมีลูกค้าคนหนึ่งบอกผมว่า “อาจารย์ครับ ทำไมธุรกิจผมไม่ดี ทำไมลูกๆ ไม่เชื่อฟัง” พอผมไปดูบ้าน พบว่าเขาพูดกับภรรยาแบบสั่งๆ ใส่ใสเหมือนลูกน้อง ภรรยาเก็บเอาแต่ใจ ไม่มีรอยยิ้ม เด็กๆ ก็เครียด บรรยากาศในบ้านหนักอึ่ง
แต่พระพุทธเจ้าสอน สัปปุริสธรรม 7 ธรรมของคนดี โดยเฉพาะข้อ “สุตะ” การรู้จักฟังอย่างแท้จริง การฟังไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่มันคือการให้เกียรติ
ผมอยากให้คุณลองเปรียบเทียบดูครับ
เมื่อคุณพูดแบบสั่ง: “เอาแบบนี้สิ เธอต้องทำตามที่ฉันบอก ฉันคิดมาแล้ว เอาอย่างนี้” ผลที่ได้คือ ภรรยารู้สึกถูกดูถูก ไม่มีคุณค่า และค่อยๆ หยุดแสดงความคิดเห็น
เมื่อคุณพูดแบบปรึกษา: “คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้ เราลองดูทางเลือกต่างๆ กันดีไหม ฉันอยากรู้มุมมองของเธอ” ผลที่ได้คือ คุณจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่คุณไม่เคยนึกถึง และที่สำคัญ มันทำให้เธอรู้สึกว่าเธอคือ คู่คิด ไม่ใช่ลูกน้อง
ผมจำได้ว่า มีลูกค้าอีกคนหนึ่ง หลังจากเขาเปลี่ยนวิธีสื่อสาร เริ่มฟังภรรยามากขึ้น ภรรยาเขาเสนอไอเดียใหม่ในการทำธุรกิจ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นหลายเท่า
ในทางฮวงจุ้ย เราเชื่อว่าเมื่อคนในบ้านมีความสุข รู้สึกมีคุณค่า พลังงานบวกจะแผ่ออกมา และดึงดูดโชคลาภมาสู่บ้าน
ครอบครัวที่เดินไปได้ไกล ไม่ได้เดินเพราะมีคนหนึ่งลาก อีกคนหนึ่งถูกลาก แต่เพราะเดินไปด้วยกันอย่างเข้าใจและเคารพกันต่างหากครับ เหมือนนกที่บินเป็นฝูง พวกมันสลับกันเป็นผู้นำ เพื่อให้ฝูงไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
ข้อ 3: เลิกให้เธอเป็นถังรองรับอารมณ์
ลองถามตัวเองดูสิครับ คุณเคยกลับจากที่ทำงาน แล้วเอาความเครียดทั้งหมดมาลงที่เธอไหม เคยพูดเสียงแข็ง ตะคอก หรือทำให้เธอร้องไห้ ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ผิดอะไรเลยไหม
ผมเคยเห็นหลายครอบครัวที่สามีกลับมาจากที่ทำงาน เครียดจากหัวหน้า จากลูกค้า จากการจราจร แต่พอถึงบ้าน กลับไปตะโกนใส่เมีย ใส่ลูก ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
ผมจำได้เคสหนึ่ง ลูกค้าบอกว่าธุรกิจไม่ดี เงินทองไม่อยู่ พอผมไปดูบ้าน พบว่าพลังงานในบ้านติดลบมาก ภรrrยาและลูกๆ เก็บตัว หลบหน้าสามี เพราะกลัวโดนด่า บ้านแบบนี้จะมีโชคลาภยังไงครับ
พระพุทธเจ้าสอนว่า “ขันติบารมี – ความอดทน เป็นตบะอย่างยิ่ง” ผู้ชายที่แท้จริง ไม่ใช่ผู้ชายที่กล้าตะโกนเสียงดัง แต่คือผู้ชายที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้
ลองคิดดูครับ ใครเป็นคนที่คุณเคารพมากที่สุดในชีวิต มักจะเป็นคนที่เขาไม่เคยใช้เสียงหรือพฤติกรรมที่รุนแรงกับเรา แต่เขาแสดงความแข็งแกร่งผ่านความใจเย็น ความมั่นใจ และความเข้าใจ
บ้านที่ดีควรเป็นที่พักใจ ไม่ใช่สนามรบ ถ้าคุณเหนื่อย ลองบอกเธอตรงๆ ว่า “วันนี้งานเครียด ขอพักสักนิดนะ เดี๋ยวค่อยคุย” แทนที่จะระเบิดใส่กัน แค่นี้ก็เปลี่ยนบรรยากาศทั้งบ้านได้แล้วครับ
ผมสอนลูกค้าคนนั้นให้ทำแบบนี้ แค่ 2 อาทิตย์ บรรยากาศในบ้านเปลี่ยนไป ภรรยาและลูกๆ เริ่มพูดคุยกับเขามากขึ้น มีเสียงหัวเราะในบ้าน และไม่นานนัก ธุรกิจของเขาก็เริ่มดีขึ้น
จำไว้นะครับว่า ภรrrยาไม่ใช่ที่รองรับความเครียด แต่เธอคือคนที่อยากจะเยียวยาคุณ แต่คุณต้องเปิดโอกาสให้เธอทำด้วย “ความรัก” ไม่ใช่ “ความหวาดกลัว”
เมื่อบ้านเต็มไปด้วยความสงบ ความรัก ความเข้าใจ พลังงานบวกจะเพิ่มขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ดึงดูดความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัว
ข้อ 4: เลิกละเลยความรู้สึก
สิ่งที่ผู้หญิงต้องการจริงๆ อาจไม่ใช่กระเป๋าหรูหรือของขวัญแพงๆ แต่คือ “ความใส่ใจ” ผมดูฮวงจุ้ยมานับพันครอบครัว ครอบครัวที่มีความสุขจริงๆ ไม่ใช่ครอบครัวที่รวยที่สุด แต่เป็นครอบครัวที่ใส่ใจกันและกัน
ผมเคยเจอคุณผู้ชายคนหนึ่ง รายได้ดี ซื้อของแพงๆ ให้ภรรยาเป็นประจำ แต่ไม่เคยถามว่าภรรยาเหนื่อยไหม มีปัญหาอะไรไหม วันหนึ่งภรรยาเขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เพราะรู้สึกโดดเดี่ยว รู้สึกว่าสามีไม่เข้าใจเธอ
พระพุทธเจ้าสอน พรหมวิหาร 4 โดยเฉพาะ กรุณา ความปรารถนาให้คนที่เรารักพ้นทุกข์ และ มุทิตา ยินดีเมื่อเขามีความสุข
การใส่ใจไม่ต้องใช้เงิน แต่ใช้ “เวลา” และ “ใจ” ลองถามคำง่ายๆ ว่า “เหนื่อยไหมวันนี้” “มีอะไรให้ช่วยไหม” “วันนี้เป็นยังไงบ้าง”
คำถามเล็กๆ เหล่านี้มันสร้างพลังใจได้มากกว่าที่คุณคิด เพราะมันทำให้เธอรู้ว่า คุณเห็นเธอ คุณฟังเธอ และคุณอยู่ข้างเธอ
ผมเคยมีลูกค้าคู่หนึ่ง หลังจากที่สามีเริ่มใส่ใจภรรยามากขึ้น ถามไถ่ทุกข์สุขกัน ภรรยาเขากลับมามีพลัง มีความสุข และเธอก็เริ่มสนับสนุนงานของสามีมากขึ้น ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ ทำให้การทำงานของเขาราบรื่นขึ้น
การใส่ใจยังหมายถึงการจำวันสำคัญต่างๆ วันเกิด วันครบรอบ วันที่เธอเศร้า วันที่เธอดีใจ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรใหญ่โต แค่การแสดงให้เห็นว่าคุณจำได้ และคุณห่วงใย ก็เพียงพอแล้ว
บ้านที่เต็มไปด้วยความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ จะกลายเป็นบ้านที่มีพลังบวกมหาศาล และนั่นคือรากฐานของความสุขในครอบครัวครับ
ข้อ 5: เลิกให้เมียเป็นแม่ของคุณ
ข้อนี้เป็นข้อที่หลายคนจะรู้สึกขุ่นเคือง แต่ผมขอพูดตรงๆ นะครับ ผู้ชายหลายคน พอแต่งงานแล้วกลับทำตัวเหมือนมี “แม่คนที่สอง” คอยเตือน คอยจัดการ คอยดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงกินยา แบบนี้มันไม่ใช่ “คู่ชีวิต” แล้ว แต่มันคือ “แม่ลูก” มากกว่า
ผมเจอเคสแบบนี้บ่อยมาก สามีกลับบ้านมา ถือกระดาษเช็ดหน้าโยนไปโยนมา ภรรยาต้องไปเก็บ ถอดถุงเท้าทิ้งไว้กลางบ้าน ภรรยาต้องไปเก็บ หิวข้าวนั่งรอ ไม่คิดจะเตรียมอะไรเอง รอให้ภรรยาจัดการให้หมด
บางคนถึงกับให้ภรrrยาเตรียมยาให้กิน เตือนให้ไปหาหมอ เตือนงานประชุม เตือนเรื่องงาน แบบนี้เหมือนแม่เลี้ยงลูกมากกว่าภรรยาดูแลสามี
พระพุทธเจ้าสอนเรื่อง ทิศ 6 โดยเฉพาะ ทิศเบื้องขวา ภรรยา สามีที่ดีต้องปฏิบัติต่อภรรยาอย่างน้อย 5 ประการ ได้แก่ ให้เกียรติ ซื่อสัตย์ ไว้วางใจ ให้ของขวัญ และให้เกียรติในสายตาผู้อื่น
สังเกตไหมครับ ข้อแรกคือ “ให้เกียรติ” ไม่ใช่ให้เธอมาดูแลคุณแบบลูกเล็ก
ผู้ชายที่แท้จริง ต้องยืนหยัดเป็นผู้นำชีวิตคู่ ดูแลและปกป้องเธอ ไม่ใช่โยนทุกอย่างให้เธอทำเหมือนแม่ดูแลลูก
ผมอยากให้คุณลองคิดดู ถ้าคุณเป็นผู้หญิง คุณจะรู้สึกยังไงที่ต้องมาดูแลผู้ใหญ่อีกคน ดูแลสามีแบบดูแลลูก นี่ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นภาระ
เมื่อคุณเลิกทำตัวเป็น “เด็ก” แล้วลุกขึ้นมาเป็น “ผู้ชายที่ดูแลเธอ” คุณจะได้ความเคารพและความรักที่มั่นคงตอบกลับมา
ผมเคยมีลูกค้าคนหนึ่งที่ภรรยาขู่จะหย่าเพราะเหนื่อยกับการดูแลสามี หลังจากที่เขาเปลี่ยนตัวเอง เริ่มดูแลตัวเอง เริ่มช่วยงานบ้าน เริ่มเป็นผู้ปกป้องครอบครัว ภรรยาเขากลับมายิ้มให้ กลับมากอดอย่างที่ไม่เคยทำมานานแล้ว
ในทางฮวงจุ้ย เมื่อผู้ชายเป็น “เสาหลักของบ้าน” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นแค่ “ภาระของบ้าน” พลังงานในบ้านจะมั่นคงและแข็งแรง ดึงดูดความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัว
ก่อนที่ผมจะสรุป ผมอยากแบ่งปันเคล็ดลับฮวงจุ้ยง่ายๆ ที่จะช่วยเสริมความรักในครอบครัวให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
อันดับแรก ห้องนอนสามีภรรยาควรอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง ไม่ใช่เหนือห้องครัวหรือห้องน้ำ เพราะพลังงานจะไม่เสถียร
อันดับสอง ในห้องนอน ไม่ควรมีกระจกส่องหน้าเตียง เพราะจะทำให้เกิดพลังงานสับสน สร้างความขัดแย้งในความสัมพันธ์
อันดับสาม จัดโต๊ะกินข้าวให้เป็นวงกลมหรือสี่เหลี่ยม ให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากันขณะกินข้าว นี่จะช่วยเสริมสมานสามัคคี
อันดับสี่ ปลูกต้นไผ่หรือไม้มงคลไว้หน้าบ้าน เพื่อดึงพลังงานบวกเข้าสู่บ้าน
และอันดับสุดท้าย ที่สำคัญที่สุด คือการรักษาความสะอาดในบ้าน โดยเฉพาะห้องครัวและห้องน้ำ เพราะเป็นจุดที่พลังงานไหลเวียนสำคัญ
หลังจากที่ผมได้เล่าทั้ง 5 ข้อให้ฟังแล้ว คุณอาจจะสงสัยว่า ถ้าทำจริงแล้ว จะได้ผลลัพธ์อะไรบ้าง
ด้านความสัมพันธ์: สามีภรรยาจะมีความเข้าใจกันมากขึ้น มีการสื่อสารที่ดีขึ้น และมีความผูกพันที่แน่นแฟ้นกว่าเดิม
ด้านการเงิน: เมื่อบ้านมีพลังงานบวก มีความสามัคคี โชคลาภและโอกาสทางการเงินจะไหลเข้ามาได้ง่ายขึ้น
ด้านลูกหลาน: เด็กๆ จะเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น ทำให้พัฒนาการทางจิตใจและสติปัญญาดีขึ้น
ด้านสุขภาพ: ความเครียดในบ้านลดลง ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของทุกคนในครอบครัว
ด้านการงาน: เมื่อบ้านเป็นที่พักใจที่แท้จริง คุณจะมีพลังงานในการทำงานมากขึ้น และได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว
สำหรับผู้ฟังที่อยากลองนำไปปฏิบัติ ผมแนะนำให้เริ่มจากข้อที่คุณรู้สึกว่าทำได้ง่ายที่สุด อย่าพยายามเปลี่ยนทุกอย่างในครั้งเดียว
อาจเริ่มจากการช่วยล้างจานหลังเสร็จกินข้าว หรือการถามไถ่ภรรยาว่า “วันนี้เป็นยังไงบ้าง” ก่อนจะเล่าเรื่องของคุณ
หรือเริ่มจากการควบคุมอารมณ์ตัวเอง เมื่อเครียดให้นึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องขันติบารมี
สิ่งเล็กๆ เหล่านี้ เมื่อทำต่อเนื่องกัน จะกลายเป็นพลังใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงทั้งครอบครัว
ผมเชื่อว่าหลายคนที่ฟังถึงจุดนี้ อาจจะเริ่มนึกถึงภาพของภรรยา นึกถึงสิ่งที่เธอทำให้กับบ้าน นึกถึงความเหนื่อยล้าของเธอ หากคุณเริ่มรู้สึกแบบนี้แล้ว นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ดี
สุดท้ายแล้ว การเลิกทำ 5 อย่างนี้ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเสียอำนาจในบ้าน ตรงกันข้าม มันจะทำให้คุณได้ “พลังที่แท้จริง” คือพลังของความรักและความเคารพ
เพราะผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ผู้ชายที่เสียงดังที่สุด แต่คือผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงข้างๆ รู้สึกปลอดภัย มีคุณค่า และมีความสุขที่สุด
เมื่อคุณใช้ สังคหวัตถุ 4, สัปปุริสธรรม 7, ขันติบารมี, พรหมวิหาร 4, และ ทิศ 6 มาประคองความรัก คุณจะพบว่าชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องเหนื่อย แต่คือเส้นทางธรรมที่พากันเดินไปสู่ความสุขที่แท้จริง
ในทางฮวงจุ้ย เราเชื่อว่าความสุขในครอบครัว คือพื้นฐานของความเจริญทุกด้าน เมื่อบ้านมีความสุข โชคลาภจะตามมา เมื่อสามีภรรยารักกัน ลูกหลานจะเจริญ เมื่อครอบครัวสามัคคี ทุกสิ่งทุกอย่างจะราบรื่น
ผู้ชายครับ จำไว้ว่าภรรยาไม่ใช่แรงงาน ไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ และไม่ใช่แม่ของคุณ แต่เธอคือ “คู่ชีวิต” ที่คุณเลือกเอง ถ้าคุณดูแลเธอให้ดี ชีวิตคุณจะดีและปังอย่างแน่นอนครับ
หากคุณรู้สึกว่าเนื้อหาวันนี้มีประโยชน์ ผมเชิญชวนให้คุณกดติดตาม กดกระดิ่งแจ้งเตือน และแชร์คลิปนี้ให้กับเพื่อนๆ ที่คุณห่วงใย
ผมมีเนื้อหาดีๆ เกี่ยวกับธรรมะ ฮวงจุ้ย และการใช้ชีวิตแบบพุทธศาสนิกชนอีกมากมาย รวมถึงเรื่องการเสริมดวงชะตา การดูแลบ้านให้มีแต่พลังบวก และการสร้างกิเลสให้กับครอบครัว
และสุดท้าย ผมอยากให้ผู้ฟังช่วยมีส่วนร่วมในคลิปนี้ด้วย หากคุณได้ลองนำคำแนะนำไปใช้แล้ว กรุณากลับมาเล่าให้ฟังในคอมเมนต์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนอื่นๆ ที่กำลังพยายามปรับปรุงครอบครัว
หรือหากคุณมีประสบการณ์ดีๆ จากการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมเชิญชวนให้คุณแชร์ เพราะนั่นคือการสร้างบุญกุศลให้กับสังคม และการให้กำลังใจกันและกัน
สาธุครับ ขอให้ทุกครอบครัวมีแต่ความสุข ความเจริญ และความรักที่ยั่งยืน
ขอบคุณที่ติดตามฟัง แล้วเจอกันใหม่ในคลิปหน้าครับ

