การมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อการดำเนินชีวิตและการทำความดีนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากเรามีมุมมองหรือความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปจากหลักธรรมะแล้ว ย่อมนำไปสู่การดำเนินชีวิตที่ผิดพลาด ท่านพุทธทาสภิกขุ ผู้เป็นนักปราชญ์ชาวไทยที่มีชื่อเสียงได้กล่าวถึง 9 ทัศนคติที่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำความดี ดังนี้
ท่านอาจารย์พุทธทาสกล่าวถึง 9 ทัศนคติต่อการทำความดีที่มักเข้าใจผิด
- เข้าใจผิดว่าทำดีต้องได้ผลตอบแทน แท้จริงทำดีไม่ได้อะไร แต่ได้ละกิเลส ทำบุญให้ได้แค่ใจสบาย
- เข้าใจผิดว่าทำดีกับใคร คนนั้นต้องดีตอบ แท้จริงเรามีหน้าที่ทำดี ส่วนผู้อื่นจะดีหรือไม่ดีตอบไม่ใช่ประเด็น
- เข้าใจผิดว่าให้ของแล้วต้องได้รับคืน แท้จริงการให้คือการเสียสละโดยแท้ หากคาดหวังผลตอบแทนไม่ถือว่าเป็นการให้
- เข้าใจผิดว่าแก่แล้วทำอะไรก็ได้ แท้จริงแก่แล้วต้องยิ่งระมัดระวังมากขึ้น เพราะเวลาเหลือน้อย
- เข้าใจผิดว่าต้องทำความดีเพื่อความมั่นคงในอนาคต แท้จริงไม่มีความมั่นคงในโลกนี้ ทุกคนต้องตายท้ายที่สุด
- เข้าใจผิดว่าความต้องการของตนเองสำคัญที่สุด แท้จริงไม่มีความต้องการนั่นแหละสำคัญที่สุด ไม่มีตัวเรา
- เข้าใจผิดว่าเข้าวัดแล้วใจจะสงบ แท้จริงวัดอยู่ในใจ ใจสงบหรือไม่อยู่ที่การคิด
- เข้าใจผิดว่าความสุขสบายเป็นสิ่งที่เลือกได้ แท้จริงเกิดมาก็ทุกข์แล้ว ไม่มีใครสบายตลอดชาติ
- เข้าใจผิดว่าต้องยึดมั่นในของและคน แท้จริงไม่มีอะไรหรือใครที่ต้องยึดไว้หรือรักษาไว้
การทำความดีหรือการเจริญรอยตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น หากเรายังมีทัศนคติที่คลาดเคลื่อนหรือมุมมองที่ผิดพลาดแล้ว ย่อมทำให้การปฏิบัตินั้นไม่บรรลุผลสำเร็จตามที่ควรจะเป็น หรืออาจนำพาให้ผิดหลงไปจากเส้นทางแห่งการพ้นทุกข์ก็เป็นได้ ดังนั้น การทบทวนและปรับมุมมองให้ถูกต้องตามหลักคำสอนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำพาเราไปสู่ความสงบสุข และการหลุดพ้นจากความทุกข์ได้อย่างแท้จริง