เม้ามอยกับมามูมะ

กรรมเหมือนแรงดึงดูด: ไม่มีความบังเอิญในโลกนี้

กรรมเหมือนแรงดึงดูด

ในโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและเหตุการณ์ต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ หลายคนอาจสงสัยว่า “โชคชะตา” หรือ “เหตุบังเอิญ” มีจริงหรือไม่? แต่หากพิจารณาให้ลึกซึ้งตามหลักธรรมะของพระพุทธศาสนา จะพบว่า สิ่งที่เราเผชิญในชีวิตล้วนเป็นผลของ กรรม ที่เราสร้างขึ้น ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน


กรรมเหมือนแรงดึงดูด

กรรมในทางพุทธศาสนา หมายถึง การกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางกาย วาจา หรือใจ ทุกการกระทำย่อมก่อให้เกิดผลตามมา และผลนั้นก็เปรียบเสมือน “แรงดึงดูด” ที่นำพาเหตุการณ์ ผู้คน หรือสถานการณ์มาสู่ชีวิตเรา

ลองจินตนาการถึงแรงดึงดูดของโลกที่คอยดึงทุกสิ่งทุกอย่างเข้าหามัน กรรมก็ทำหน้าที่ในลักษณะเดียวกัน เพียงแต่สิ่งที่ดึงดูดไม่ได้เป็นวัตถุ แต่เป็น “ผลลัพธ์” ของการกระทำ เช่น หากเราเคยทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น ผลของความดีนั้นก็จะดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ในขณะเดียวกัน หากเรากระทำสิ่งที่ไม่ดี กรรมเหล่านั้นก็จะดึงดูดสถานการณ์หรือผู้คนที่เกี่ยวข้องกับผลของการกระทำมาให้เราเผชิญ


ไม่มีความบังเอิญในโลกนี้

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ แต่เกิดจากการเชื่อมโยงของเหตุและผล เช่น การที่คุณได้พบกับใครบางคนที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตคุณ อาจเป็นผลของกรรมที่เคยทำร่วมกันมาในอดีตชาติ หรือเหตุการณ์ที่ดูเหมือนโชคร้าย อาจเป็นผลของกรรมที่คุณเคยก่อขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ คนที่ดูเหมือนประสบความสำเร็จอย่างง่ายดาย หรือผู้ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายในชีวิต สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคหรือเคราะห์ แต่เกิดจากผลกรรมที่แตกต่างกันของแต่ละคน


การรับกรรม: หน้าที่ของทุกชีวิต

เมื่อเราเข้าใจว่า กรรมเปรียบเสมือนแรงดึงดูดที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ การรับกรรมจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน แต่การรับกรรมนั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องยอมรับโดยไม่พยายามแก้ไข หากเรารู้ตัวว่าเคยกระทำผิด เราสามารถเริ่มต้นสร้างกรรมดีใหม่เพื่อบรรเทาผลของกรรมเก่า

สิ่งสำคัญคือการมีสติรู้ตัวในทุกการกระทำ เพราะเมื่อเราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและจิตใจของตัวเอง แรงดึงดูดจากกรรมก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น


สรุป

ในโลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “บังเอิญ” ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราล้วนเกิดจากแรงดึงดูดของกรรมที่เราสร้างขึ้นเอง การเข้าใจหลักของกรรมและความสัมพันธ์ของเหตุและผลจะช่วยให้เรามีสติมากขึ้นในชีวิต รู้จักสร้างกรรมดี และพร้อมเผชิญหน้ากับผลของกรรมที่เคยทำด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง

ดังนั้น หากวันนี้คุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์ใดก็ตาม จงจำไว้ว่า สิ่งนั้นคือผลของแรงดึงดูดจากการกระทำในอดีต และคุณมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงเส้นทางกรรมของตัวเองในอนาคตได้


“กรรม” ไม่ใช่สิ่งที่จะหลีกหนีได้ แต่เป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตัวเราเอง

You may also like

ทดสอบ lemon8
เม้ามอยกับมามูมะ

เมื่อลองลงบทความวันพระ กับ บทความเลขเด็ดจากเชงเม้งเดย์

เมื่อมามูมะบุก lemon8 และทดลองลงโพสต์ใกล้ๆกัน โดยบทความแรกจะเกี่ยวกับวันพระ ทำไมต้องมีวันพระ รวมไปถึง การเล่าเรื่องต่างๆ จนมาจบลงที่ คำทำนายในวันนี้ว่า วันพระวันนี้จะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นบ้างรวมถึงให้เสี่ยงดวงว่าทำบุญอะไรดีในวันนี้ และ บทความที่สองจะเกี่ยวกับตัวเลขเด็ด เลขจากประทัดที่มามูมะได้เลขมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ ในเพจมามูมะครับ และที่แอปบทมือถืออย่าง lemon8 รูปฝั่งซ้ายจะเป็นตัวเลข 2800+ ยอดคนดู สำหรับบทความที่สอง
ความเชื่อและประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการตัดผมในวัฒนธรรมไทย
เม้ามอยกับมามูมะ

วันดี วันร้าย ความเชื่อและประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการตัดผมในวัฒนธรรมไทย

การตัดผมถือเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องตัดอยู่เป็นประจำแต่ในวัฒนธรรมไทยกลับมองว่าเป็นพิธีกรรมทางจิตวิญญาณที่สำคัญ เนื่องมาจากความเชื่อและขนบธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ เริ่มตั้งแต่การเลือกวันและเวลาในการตัดผม การเลือกใช้เครื่องมือตัดผม ตลอดจนวิธีการจัดการกับเส้นผมที่ตัดออกมา ซึ่งล้วนมีจุดประสงค์เพื่อนำโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตนและครอบครัว โดยในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักประเพณีและความเชื่อเกี่ยวกับการตัดผมแบบไทยๆ ที่สืบทอดมาตั้งแต่อดีต ซึ่งจะทำให้คุณได้ซาบซึ้งถึงรากเหง้าและสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งของคนไทย เพื่อให้ไม่เสียเวลาของคนอ่านมากนัก เรามาดูกันว่า จะมีวันดี วันร้าย ตรงตามที่คุณรู้มาบ้างไหม ลองอ่านกันดูครับผม ในสมัยก่อนชาวบ้านจะเชื่อว่า การตัดผมในวันและเวลาหนึ่งๆ