ในยุคปัจจุบันที่สื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน คำพูดทั้งจากปากและจากการพิมพ์บนหน้าจอสามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนได้อย่างกว้างขวาง คำพูดที่เป็นทั้งคำชม คำวิจารณ์ หรือคำกล่าวโทษมักถูกแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว หลายคนรู้สึกถูกทำร้ายจากคำพูดของผู้อื่นโดยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม หลักธรรมะจากคำสอนของพระพุทธศาสนาได้เน้นย้ำถึงการรู้เท่าทันและการจัดการกับคำพูดของผู้อื่น รวมถึงการควบคุมคำพูดของตนเองให้เป็นไปในทางที่สร้างสรรค์
ปากของผู้อื่น…เราห้ามไม่ได้
คำพูดเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก เพราะขึ้นอยู่กับความคิด อารมณ์ และเจตนาของผู้พูด เราไม่สามารถไปห้ามความคิดหรือความรู้สึกของผู้อื่นได้ เช่นเดียวกับที่บางครั้งเรายังเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ดีออกไป ทั้งที่รู้ว่ามันไม่สมควร หลักธรรมสำคัญที่สามารถนำมาใช้ในเรื่องนี้คือ ขันติ (ความอดทน) และ อุเบกขา (การวางเฉย)
ขันติช่วยให้เรารับมือกับคำพูดที่ไม่ดีโดยไม่ตอบโต้ด้วยความโกรธหรืออารมณ์รุนแรง ส่วนอุเบกขาช่วยให้เราไม่ยึดติดกับคำพูดของผู้อื่นจนเกิดความทุกข์หรือความหวั่นไหวในจิตใจ การไม่ใส่ใจกับคำพูดของผู้คนที่ไม่ได้มีผลต่อชีวิตจริงของเรา เป็นการป้องกันตัวเองจากความเจ็บปวดทางจิตใจ
หากเราใช้คำพูดที่ดีไม่เพียงแค่เป็นการแสดงออกถึงความปรารถนาดีและความใส่ใจต่อผู้อื่น แต่ยังส่งผลบวกต่อทั้งตัวผู้พูดและผู้ฟัง ดังนี้:
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดี: การพูดในเชิงบวก เช่น การชมเชย การให้กำลังใจ หรือการพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจและความเคารพซึ่งกันและกัน
- เป็นที่รักในสังคม: ผู้ที่พูดด้วยความจริงใจและเจตนาดีมักเป็นที่ชื่นชมและยอมรับในหมู่เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว และสังคม
- สร้างบรรยากาศที่ดี: คำพูดดีๆ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น ลดความตึงเครียด และกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
- ผลสะท้อนกลับที่ดี: หลักกรรมในพระพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า การพูดที่ดีเป็นการสร้างกรรมดี ซึ่งส่งผลให้ผู้พูดได้รับสิ่งดีๆ กลับมาในรูปแบบของโอกาส ความช่วยเหลือ และความสุขทางใจ
แต่หากเราใช้คำพูดที่ไม่ดี เช่น การด่าทอ นินทา พูดประชดประชัน หรือกล่าวร้าย มักสร้างผลลัพธ์เชิงลบที่ส่งผลทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น:
- ทำลายความสัมพันธ์: คำพูดที่รุนแรงหรือล่วงเกินจิตใจผู้อื่นสามารถทำให้เกิดความบาดหมาง ความขัดแย้ง หรือการสิ้นสุดความสัมพันธ์
- เกิดศัตรูในสังคม: การพูดไม่ดีทำให้คนรอบข้างรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือไม่พอใจ ส่งผลให้ผู้พูดกลายเป็นที่รังเกียจหรือหลีกเลี่ยงในสังคม
- ส่งผลเสียต่อตัวเอง: การพูดที่ขาดสติหรือพูดในยามโกรธมักทำให้ผู้พูดเสียชื่อเสียง สูญเสียโอกาส หรือทำให้เกิดความรู้สึกผิดในภายหลัง
- ผลกรรมเชิงลบ: หลักกรรมระบุว่า คำพูดที่เบียดเบียนผู้อื่นจะนำมาซึ่งผลกรรมที่ย้อนกลับมาทำร้ายผู้พูดเอง
และความเงียบในสถานการณ์ที่เหมาะสมอาจดูเหมือนไม่ได้ทำอะไร แต่แท้จริงแล้ว การเงียบมีคุณค่ามากมาย ทั้งในแง่ของการหลีกเลี่ยงปัญหาและการแสดงปัญญา:
- ลดความขัดแย้ง: เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดหรือเมื่ออารมณ์ร้อน การเงียบช่วยป้องกันไม่ให้คำพูดที่อาจทำร้ายผู้อื่นหลุดออกมา
- แสดงถึงปัญญา: คนที่เงียบในเวลาที่สมควร มักถูกมองว่าเป็นผู้ที่สุขุม รอบคอบ และมีวุฒิภาวะ
- สร้างโอกาสในการฟัง: การเงียบเปิดโอกาสให้เราได้ฟังความคิดเห็นของผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและการเรียนรู้
- ช่วยให้ใจสงบ: การไม่พูดสิ่งที่ไม่จำเป็น ช่วยลดภาระทางใจและหลีกเลี่ยงความเสียใจในภายหลัง
สุดท้ายแล้ว ปากของผู้อื่น เราไม่สามารถห้ามได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะจัดการกับความรู้สึกของเราเองได้ การใช้หลักธรรมะ เช่น ขันติ อุเบกขา และวจีสุจริต ช่วยให้เราสามารถรับมือกับคำพูดที่ไม่ดีได้อย่างมีสติและปัญญา ในโลกปัจจุบันที่คำพูดมีพลังมากกว่าที่เคย เราควรตระหนักถึงผลกระทบของคำพูดทั้งที่เกิดจากเราและผู้อื่น เพราะท้ายที่สุด ความสุขที่แท้จริงอยู่ที่การรักษาจิตใจของเราให้สงบและมั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อคำพูดใดๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
มามูมะก็หวังว่า บทความนี้ จะโดนใจใครหลายๆคนที่ มักจะเจอคำพูดจากปากใครสักคนมาทำร้ายอยู่บ่อยๆ แต่นั่นแหละ สุดท้ายใช้หลักธรรมเข้าช่วยและท่องไว้ว่า “ช่างมัน” ก็พอ แฮร่